ขนมแมวเลีย คืออะไร
ขนมแมวเลีย คือ ขนมสำหรับแมวในรูปแบบเนื้อครีมหรือเจลที่บรรจุในซอง บีบให้แมวเลียกินได้โดยตรง โดยมักมีรสชาติที่แมวชื่นชอบ เช่น ปลาทูน่า ไก่ หรือปลาแซลมอน เป็นขนมยอดฮิตในหมู่ทาสแมว เพราะทั้งแมวติดใจและใช้ในการสร้างสัมพันธ์กับแมวได้ดีมาก
ตอนที่ 1 : แมวกินขนมเลียบ่อยอันตรายไหม
ตอนที่ 2 : สูตรทำขนมแมวเลียเองง่ายๆ ที่บ้าน
ตอนที่ 3 : ขนมแมวเลีย ยี่ห้อไหนดี
ตอนที่ 4 : 5 ทริคใช้ขนมแมวเลียให้แมวรักคุณมากขึ้น
ตอนที่ 5 : สรุป
แมวกินขนมเลียบ่อยอันตรายไหม
สิ่งที่ต้องระวังจาก ขนมแมวเลีย
- โซเดียมสูง : ขนมเลียบางสูตรมีโซเดียมมาก ซึ่งหากแมวได้รับบ่อย ๆ อาจส่งผลต่อไต และระบบขับถ่าย
- ไม่ได้ให้สารอาหารครบถ้วน : ขนมเลียคือของว่าง ไม่ใช่อาหารหลัก ไม่มีสารอาหารครบเหมือนอาหารแมว
- เสี่ยงติดรสชาติ : ถ้าให้บ่อย แมวอาจจะติดรสจัดจากขนมเลีย แล้วเบื่ออาหารหลัก
- พลังงานแฝง : ขนมเลียมีแคลอรี ถ้าให้บ่อยเกินไป แมวอาจอ้วนโดยไม่รู้ตัว
แนะนำวิธีให้ ขนมแมวเลีย อย่างปลอดภัย
- ให้ เฉพาะเป็นรางวัล เช่น หลังจากอาบน้ำ ตัดเล็บ หรือหาหมอ
- จำกัดให้ ไม่เกิน 2–3 ซองต่อสัปดาห์ สำหรับแมวสุขภาพปกติ
- เลือก สูตรโซเดียมต่ำ / ไม่มีสารกันบูด หากให้เป็นประจำ
- ให้ควบคู่กับน้ำสะอาดเสมอ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี
สูตรทำ ขนมแมวเลีย เองง่ายๆ ที่บ้าน
สูตรนี้เน้นส่วนผสมที่แมวชอบและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตามความชอบของน้องแมวและความสะดวกของคุณแถมมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกด้วย เช่น เล่นหวย world lotto
วัตถุดิบ
- แหล่งโปรตีนหลัก (เลือก 1 อย่าง หรือผสมกันได้)
- เนื้อปลา: เนื้อปลาทูนึ่ง, ปลาแซลมอนนึ่ง/ต้ม, ปลาซาร์ดีนในน้ำแร่ (เลือกแบบไม่เติมเกลือหรือน้ำมัน) ประมาณ 100-150 กรัม
- เนื้อไก่: อกไก่ต้ม/นึ่ง ประมาณ 100-150 กรัม
- ตับไก่/ตับหมู: ต้ม/นึ่ง ประมาณ 50 กรัม (ควรใช้ในปริมาณน้อย ไม่เกิน 10% ของโปรตีนรวม เนื่องจากมีวิตามิน A สูง)
- น้ำซุป/น้ำสต็อก (เลือก 1 อย่าง)
- น้ำต้มเนื้อไก่/ปลา/กระดูก (ไม่ปรุงรส ไม่ใส่เกลือ/น้ำมัน) ประมาณ 50-100 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่าสะอาด
- ส่วนผสมเพิ่มคุณค่า (เลือกใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- ฟักทองต้ม/นึ่งบด: 1-2 ช้อนโต๊ะ (ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย มีวิตามิน)
- ไข่แดงต้มสุก: 1 ฟอง (ช่วยเรื่องขนสวย มีไบโอติน)
- น้ำมันปลาแซลมอน: 1/2 ช้อนชา (ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง)
- ทอรีน (Taurine) เสริม: ปริมาณตามคำแนะนำบนฉลาก (จำเป็นต่อสุขภาพหัวใจและดวงตาของแมว) หาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง
- เจลาตินผง
- สำหรับช่วยให้เนื้อสัมผัสข้นขึ้นเล็กน้อย 1/2 – 1 ช้อนชา (ชนิดไม่ปรุงรส)
อุปกรณ์
- หม้อสำหรับต้ม/นึ่ง
- เครื่องปั่นอาหาร (Food Processor) หรือเครื่องบด
- ถุงบีบขนม หรือถุงซิปล็อก
- ภาชนะสำหรับเก็บ (มีฝาปิดสนิท)
ขั้นตอนการทำ
- เตรียมวัตถุดิบ
- นำเนื้อสัตว์ที่คุณเลือก (ปลา/ไก่/ตับ) ไป ต้มหรือนึ่งให้สุก โดย ห้ามปรุงรสใดๆ เด็ดขาด หากใช้ปลาที่มีก้าง ต้อง เลาะก้างออกให้หมดจด เพื่อป้องกันอันตรายต่อน้องแมว
- ถ้าใช้ฟักทองหรือไข่แดง ให้ต้ม/นึ่งให้สุกและบด/ยีให้ละเอียด
- ผสมส่วนผสม
- ใส่เนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ลงในเครื่องปั่นอาหาร
- ค่อยๆ เติมน้ำซุป หรือน้ำเปล่า ลงไปทีละน้อย พร้อมปั่นไปเรื่อยๆ จนได้เนื้อสัมผัสที่เนียนละเอียดคล้ายเพสต์ (Paste) หรือน้ำพริก หากแห้งไปให้เติมน้ำเพิ่ม แต่หากเหลวไปจะปั่นยาก ให้เพิ่มเนื้อสัตว์ได้
- ถ้าต้องการเพิ่มคุณค่า ให้ใส่ฟักทองบด, ไข่แดง, น้ำมันปลา, และ/หรือทอรีน ลงไปในขั้นตอนนี้แล้วปั่นให้เข้ากัน
- ถ้าต้องการให้เนื้อสัมผัสข้นขึ้น ให้ละลายเจลาตินผงกับน้ำซุปอุ่นๆ เล็กน้อย คนให้ละลายดี แล้วค่อยนำไปปั่นรวมกับส่วนผสมอื่นๆ
- ตรวจสอบเนื้อสัมผัส
- เนื้อสัมผัสของขนมเลียควรจะ ข้นพอที่จะไม่เหลวเป็นน้ำ แต่ก็ไม่ข้นจนเกินไป (คล้ายโยเกิร์ตข้นๆ หรือซอสมะเขือเทศ) เพื่อให้น้องแมวเลียกินได้ง่าย ถ้าเหลวไปอาจยากต่อการเก็บในถุงบีบ
- บรรจุและจัดเก็บ
- ตักขนมเลียที่ได้ใส่ลงในถุงบีบขนม หรือถุงซิปล็อก (ตัดปลายเล็กน้อยเวลาจะใช้)
- หากไม่ใช้ทันที ให้เก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท แล้วแช่ใน ตู้เย็น ช่องธรรมดาได้ประมาณ 3-5 วัน
- หากต้องการเก็บไว้นานขึ้น สามารถแบ่งใส่ช่องเล็กๆ ในถาดน้ำแข็ง แล้วนำไปแช่แข็ง เมื่อจะให้กิน ก็นำออกมาละลายและนำไปอุ่นเล็กน้อย (ห้ามร้อนจัด) เพื่อเพิ่มความหอมอร่อย เก็บในช่องฟรีซได้นานประมาณ 1-2 เดือน
ข้อควรระวังและเคล็ดลับ
- ห้ามปรุงรส: ห้ามใส่เกลือ น้ำตาล ซีอิ๊ว ผงชูรส หรือเครื่องปรุงรสใดๆ ที่คนใช้ปรุงอาหาร เพราะอาจเป็นอันตรายต่อน้องแมวได้
- หลีกเลี่ยงวัตถุดิบอันตราย: ห้ามใช้หัวหอม กระเทียม ช็อกโกแลต องุ่น ลูกเกด อะโวคาโด นมวัว (แลคโตส) แอลกอฮอล์ และไซลิทอล (สารให้ความหวานเทียม)
- ทดสอบก่อนให้เต็มที่: เมื่อทำเสร็จแล้ว ลองให้แมวชิมในปริมาณน้อยๆ ก่อน เพื่อดูว่าแมวชอบหรือไม่ และไม่มีอาการแพ้หรือผิดปกติ
- ปรับสูตร: ลองผสมเนื้อสัตว์ต่างๆ หรือผักที่ไม่เป็นอันตราย (เช่น แครอทต้มบด) ในปริมาณน้อยๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและสารอาหาร
ขนมแมวเลีย ยี่ห้อไหนดี
- CIAO Churu (เชา จูรุ)
✅ world lotto ยอดนิยมอันดับ 1 ในประเทศไทย
✅ มีหลายรส เช่น ปลาทูน่า ไก่ ฯลฯ
✅ เนื้อสัมผัสดี เหมาะกับการฝึกแมวหรือใช้หลอกให้กินยา
⚠️ โซเดียมค่อนข้างสูง ควรให้ในปริมาณพอเหมาะ
- INABA Churu Nourish / Churu Puree
✅ สูตรพิเศษสำหรับแมวป่วย หรือแมวสูงวัย
✅ มีสารอาหารครบมากกว่ารุ่นปกติ
✅ เหมาะสำหรับแมวที่กินอาหารยาก
- Sheba Meaty Tender Sticks
✅ เป็นเนื้อแท้ ๆ แต่อยู่ในรูปแบบครีม
✅ โปรตีนสูง กลิ่นหอมถูกใจแมว
⚠️ ราคาสูงกว่ารุ่นทั่วไปเล็กน้อย
- Temptations Creamy Purrrr-ée
✅ ยี่ห้อจากอเมริกา รสชาติแปลกใหม่ เช่น แซลมอนครีม
✅ ใช้เป็นรางวัลหรือช่วยสร้างความผูกพันได้ดี
- SmartHeart Creamy Treat
✅ ราคาประหยัด หาซื้อง่าย
✅ มีวิตามินและทอรีนเสริม
⚠️ คุณภาพระดับกลาง อาจมีสารเติมแต่งบ้าง
5 ทริคใช้ ขนมแมวเลีย ให้แมวรักคุณมากขึ้น
🐾 1. ใช้ขนมเลียสร้าง “โมเมนต์ดีๆ”
ถือหลอดขนมเลียให้แมวกินจากมือคุณโดยตรง เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความเชื่อใจในระยะใกล้ แมวจะรู้สึกว่าคุณคือคนที่ให้ความสุขและของอร่อย
🐾 2. ให้เป็นรางวัลหลังพฤติกรรมดี
หลังจากแมวทำตามคำสั่งหรือใช้กระบะทรายอย่างถูกต้อง ให้ขนมเลียเป็น “รางวัล” เพื่อเชื่อมโยงพฤติกรรมดี = ได้ของอร่อย วิธีนี้ช่วยให้แมวเรียนรู้และรักการอยู่ใกล้คุณ
🐾 3. ใช้ขนมเลียเวลาตัดเล็บ อาบน้ำ หรือพาไปหาหมอ
ช่วงเวลาเครียดของแมว เช่น ตอนตัดเล็บหรือใส่กระเป๋าเดินทาง ลองให้ขนมเลียเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและลดความกลัว แมวจะรู้สึกว่าคุณไม่ใช่ศัตรู แต่คือคนที่ “ปลอบใจ” ได้
🐾 4. ใช้เล่นเกมกระชับความสัมพันธ์
ทาขนมเลียไว้ที่ของเล่นหรือจานสำหรับฝึกแมวให้ดมและตามหา เป็นการสร้างกิจกรรมสนุก ๆ ที่มีคุณร่วมอยู่ด้วย แมวจะเริ่ม “รอคอย” เวลาเล่นกับคุณทุกวัน
🐾 5. จำกัดปริมาณ ไม่ให้ทุกวัน
การให้ทุกวันอาจทำให้แมวเบื่อหรือไม่ตื่นเต้น ลองให้แค่ 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อให้แมวรู้สึกพิเศษและรอคอยช่วงเวลาแห่งความสุขกับคุณ
สรุป
ขนมเลียของแมวเป็นอีกหนึ่งอาหารที่สัตว์เลี้ยงน่ารักของเราชื่นชอบมากๆเรียกได้ว่าติดเลยก็ว่าได้ใครที่อยากจะเข้าไปจับตัวแมวหรือเริ่มต้นวันดีๆกับสัตว์เลี้ยงของคุณขนมเลียก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ทาสอย่างเราควรมีติดบ้านครับ